วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ประเทศญี่ปุ่น🗾🗻🏯🎌

🎌ประวัติความเป็นมาของญี่ปุ่น🎌
ญี่ปุ่น  มีชื่อทางการคือประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศหมู่เกาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกติดกับคาบสมุทรเกาหลี และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีทะเลญี่ปุ่นกั้น ส่วนทางทิศเหนือ ติดกับประเทศรัสเซีย มีทะเลโอคอตสค์ เป็นเส้นแบ่งแดน ตัวอักษรคันจิของชื่อญี่ปุ่นแปลว่าถิ่นกำเนิดของดวงอาทิตย์ จึงทำให้บางครั้งถูกเรียกว่า🌞ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย🌞
ญี่ปุ่นมีเนื้อที่กว่า 377,930 ตารางกิโลเมตร นับเป็นอันดับที่ 61 ของโลก หมู่เกาะญี่ปุ่นประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 3,000 เกาะ เกาะที่ใหญ่ที่สุดก็คือเกาะฮนชูฮกไกโด คีวชู และชิโกกุ ตามลำดับ เกาะของญี่ปุ่นส่วนมากจะเป็นหมู่เกาะภูเขา ซึ่งในนั้นมีจำนวนหนึ่งเป็นภูเขาไฟ เช่น ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศ เป็นต้น ประชากรของญี่ปุ่นนั้นมีมากเป็นอันดับที่ 10 ของโลก คือประมาณ 128 ล้านคน เมืองหลวงของญี่ปุ่นคือกรุงโตเกียว ซึ่งถ้ารวมบริเวณปริมณฑลเข้าไปด้วยแล้วจะกลายเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีประชากรอยู่อาศัยมากกว่า 30 ล้านคน

สันนิษฐานว่ามนุษย์มาอาศัยในญี่ปุ่นครั้งแรกตั้งแต่ยุคหินเก่า การกล่าวถึงญี่ปุ่นครั้งแรกปรากฏขึ้นในบันทึกของราชสำนักจีนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1 ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากจีนในหลายด้าน เช่นภาษา การปกครองและวัฒนธรรม แต่ในขณะเดียวกันก็มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง จึงทำให้ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นมาจนปัจจุบัน อีกหลายศตวรรษต่อมา ญี่ปุ่นก็รับเอาเทคโนโลยีตะวันตกและนำมาพัฒนาประเทศจนกลายเป็นประเทศที่ก้าวหน้าและมีอิทธิพลมากที่สุดในเอเชียตะวันออก หลังจากแพ้สงครามโลกครั้งที่สอญี่ปุ่นก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการปกครองโดยการใช้รัฐธรรมนูญใหม่ใน พ.ศ. 2490
ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจ โดยมีจีดีพีสูงเป็นอันดับสามของโลกในปี พ.ศ. 2553 ญี่ปุ่นเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ จี 8 โออีซีดี และเอเปค และมีความตื่นตัวที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของต่างประเทศ ญี่ปุ่นมีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดี 


🗾🌎มรดกโลกในญี่ปุ่น🌎🗾

1. BUDDHIST MONUMENTS IN THE HORYU-JI AREA (法隆寺地域の仏教健造物)

วัดโฮริวจิ จังหวัด Nara เป็นวัดไม้ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ 1993 ไม่มีประวัติวัดและประวัติการก่อสร้างที่ชัดเจน
การเดินทาง : โดยนั่งรถไฟเจอาร์ สาย คันไซ ฮนเซ็น (JR Kansai Honsen ) เดินเท้าเพียง 10 นาที จากสถานีรถไฟเจอาร์ นารา ( JR Nara station)
2. HIMEJI-JO CASTLE (姫路城)
ปราสาทฮิเมะจิ จังหวัด Hyogo ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ 1993 เป็นปราสาทที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของปราสาทญี่ปุ่น ตัวของปราสาทที่มีสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นอันงดงามและทรงคุณค่า เนื่องจากตัวปราสาทมีสีขาว ดูคล้ายนกกระยางสยายปีก ที่นี่จึงได้ชื่อเล่นว่า “ปราสาทนกกระยาง” แถมยังเป็นปราสาทที่รอดพ้นการโจมตีของข้าศึกรวมทั้งภัยธรรมชาติต่างๆ ภายในปราสาทจึงยังคงสภาพดั้งเดิมมากที่สุดค่ะ และเป็นหนึ่งใน 12 ปราสาทญี่ปุ่นที่สามารถคงสภาพและโครงสร้างเดิมไว้ได้ โดยไม่เคยผ่านการสร้างใหม่
การเดินทาง: เดินเท้าประมาณ 15 นาที จากสถานีรถไฟเจอาร์ ฮิเมจิ ( JR Himeji station)
3. YAKUSHIMA ISLAND (屋久島)
เกาะยาคุชิมะ จังหวัด Kagoshima ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ 1993 เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีป่าดงดิบและภูเขาอยู่ภายในเกาะ ตั้งอยู่ทางใต้ของชายฝั่งจังหวัด Kagoshima เป็นป่าที่รวมเอาต้นสนโบราณอายุยืนยาวหลายพันปีเอาไว้มากที่สุด และยังเชื่อกันว่าหนึ่งในนั้นมีต้นสนอายุ 1,000ปี ที่คาดว่าเป็นต้นสนที่อายุมากที่สุดในโลกมีชื่อว่า Jomonsugi เชิญเพลิดเพลินกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติบนเกาะพิศวงที่จะทำให้เวลาของคุณหยุดเดิน บนเกาะนี้มีเทือกเขาสูง พืชพันธุ์ต่างๆที่เจริญเติบโตบนเกาะพบได้ตั้งแต่พืชเขตร้อน ปะการัง ไปจนถึงพืชเขตหนาว
การเดินทาง : เดินทางด้วยเรือเฟอรี่ 4ชั่วโมงมายังท่าเรือ มิยาโนะอุระ (Miyanoura Port by ferry) หรือเพียง40นาที จากสนามบินคะโกะชิมะ (Kagoshima Airport) มายังสนามบิน ยากุชิมะ (Yakushima Airport)
4. SHIRAKAMI-SANCHI (白神山地)
เทือกเขาชิระคามิ-ซันจิ จังหวัด Aomori ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ 1993 เป็นป่าบีชเก่าแก่ที่มีขนาดกว้างใหญ่อุดมไปด้วยสัตว์ป่าและพืชพรรณหายากนานาชนิด ฤดูที่เหมาะแก่การเที่ยวชมคือช่วงฤดูร้อน เนื่องจากมีน้ำตกหลายสาย ส่วนในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยงามน่าเที่ยวชมไม่แพ้ช่วงฤดูร้อน
การเดินทาง: จากสถานีโตเกียวถึงสถานีชิน-อะโอะโมริ( Shin-Aomori Station) ด้วยรถไฟชินคันเซ็น สายเจอาร์โทโฮะคุ (JR Tohoku Shinkansen Line ) ใช้เวลา 4ชั่วโมง 50นาที จากนั้น เดินทางด้วยรถไฟเจอาร์สายโออุ  (JR Ou Line) จากสถานีชิน-อะโอะโมริ ถึงสถานี ฮิโรซาคิ ( Hirosaki Station )อีกประมาณ 40 นาที จากนั้น นั่งรถบัสจากสถานี ฮิโรซาคิ แล้วลงที่ป้าย ทะชิโระ (Tashiro )อีก 50นาทีค่ะ
 5. HISTORIC MONUMENTS OF ANCIENT KYOTO (古都京都の文化財)

อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของเมืองเก่า Kyoto,Uji จังหวัด Kyoto และเมือง Otsu จังหวัด Shiga ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ 1994 นับเป็นเสน่ห์ของเมืองเก่าอย่างเกียวโตที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี มีสถานที่หลายแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตัวอย่างเช่น วัดน้ำใส (Kiyomizudera),ปราสาทเงิน (Ginkakuji)และปราสาททอง (Kinkakuji) เป็นต้น

6. HISTORIC VILLAGES OF SHIRAKAWA-GO AND GOKAYAMA (白川郷・五箇山の合掌造り集落)
หมู่บ้านประวัติศาสตร์ชิระคะวะโกะ จังหวัด Gifu และในจังหวัด Toyama ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ 1995 ตัวบ้านสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ในฤดูหนาวหลังคาจะปกคลุมไปด้วยหิมะเสมือนการเฉลิมฉลองความงดงามของฤดูกาล

7. HIROSHIMA PEACE MEMORIAL (GENBAKU DOME) (原爆ドーム)

อนุสรณ์สวนสันติภาพ จังหวัด Hiroshima ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ 1996 อาคาร Atomic bomb dome ในจังหวัด Hiroshima เป็นจุดศูนย์กลางที่ระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกจากสงครามตกลงมาพอดี ทำให้กำแพงบางส่วนจึงยังคงสถาพอยู่ในขณะที่บริเวณอื่นโดยรอบแหลกเป็นจุล ที่แห่งนี้ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่คอยเตือนสติและบอกถึงความผิดพลาดของมนุษยชาติในอดีต

8.  ITSUKUSHIMA SHRINE (厳島神社)
ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ จังหวัด Hiroshima ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ 1996 ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะ Miyajima เป็นศาลเจ้าที่บูชา Munakata-sanjojin ลูกสาวสามนางของเทพซูซาโนโอะ เทพเจ้าแห่งทะเลและพายุของญี่ปุ่น ตรงบริเวณหน้าศาลเจ้ามีเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในทะเล นับเป็น 1ใน 3 วิวที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น

9. GUSUKU SITES AND RELATED PROPERTIES OF THE KINGDOM OF RYUKYU


โบราณสถานงุซึคุ จังหวัด Okinawa ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ 2000 เป็นซากโบราณสถานที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนเกาะโอคินาว่า เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมรวมทั้งวัฒนธรรมผสมผสานกันระหว่างชาวริวกิวจีนและญี่ปุ่น

พาชม “11 เมนูขนมญี่ปุ่น” ความอร่อยผสานศิลปะ ของว่างที่อยู่คู่ชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน


ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เข้มข้นไปด้วยเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็น เครื่องแต่งกายหรืออาหารการกิน ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นจากจิตวิญญาณทั้งนั้น และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในความเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่น คุณต้องไม่พลาดบทความนี้ด้วยประการใดทั้งปวง!!
ความอร่อยบวกกับศิลปะของชาวญี่ปุ่น ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะรวบรวมขนมญี่ปุ่น ที่มีทั้งความอร่อยและหน้าตาสวยงามมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน ไม่แน่ว่าถ้าเพื่อนๆ ได้ชมแล้วต้องไปหามาชิมกันด่วนๆ เพราะความน่ารักและน่าอร่อยของมันนั่นเอง

1. Mochi Ice Cream

แป้งโมจินุ่มๆ สอดไส้ไอศครีมหอมหวาน มันมักจะถูกเสิร์ฟตามประเพณีวันปีใหม่ของญี่ปุ่น เห็บแวบๆ ว่าในไทยก็มีขายอยู่บ้างแล้วนะ ใครอยากลองทานก็ลองไปหาซื้อกันดู

2. Yokan

ขนมวุ้นเจลาตินเนื้อเด้งที่ทำจากถั่วแดง ผงวุ้นและน้ำตาล แต่มีทริคเล็กๆ ถ้าอยากเพิ่มความอร่อยคือลองเพิ่มมันเทศ เกาลัดสับ ผลไม้หรือโรยผงมัทฉะชาเขียวก็จะได้รสชาติอร่อยที่แตกต่างกันออกไป

3. Dango

ขนมทานเล่นสุดฮิตที่เรารุ้กันในชื่อขนม “ดังโงะ” ที่เสริฟมาในไม้น่ารักๆ สามถึงสี่ลูกที่จะทำให้คุณเคี้ยวหนึบไปกับดังโงะรสชาติต่างๆ

4. Imagawayaki

ขนมชนิดนี้มักจะเจอได้ตามงานเทศกาลของญี่ปุ่น มันคือขนมที่คล้ายกับแป้งแพนเค้กหรือวาฟเฟิลที่สอดไส้หลายๆ อย่าง เช่น ถั่วแดง คัสตาร์ด วานิลลา เนื้อหรือผักต่างๆ นั่นเอง

5. Hanabira Mochi

ขนมน่ารักๆ นั้นนี้คือแป้งโมจิที่พับสอดไส้ถั่วขาวและมิโสะหวาน และเติมความน่ารักๆ ด้วยรากโกโบที่คั่นอยู่ตรงกลาง เจ้าขนมโมจิฮานาบิรานี้มีความหมายพิเศษในวันปีใหม่ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมทานในช่วงต้นปี

6. Monaka

ของหวานสุดคลาสสิกที่มักมาพร้อมกับชาร้อนๆ ขนมเวเฟอร์ที่ทำจากข้าวเหนียวอัดแน่นด้วยไส้ถั่วแดงและไอศกรีม ใครที่ไปแวะเวียนไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมที่ไปชิมกันนะ

7. Anmitsu

ขนมนี้มาเป็นแบบพาร์เฟ่ย์ที่ประกอบด้วยถั่วแดงรสหวานและวุ้นหลากหลายรูปแบบ เพิ่มความสดชื่นด้วยผลไม้สด และที่ขาดไม่ได้คือโมจิและไอศกรีมนั้นเอง

8. Sakura Mochi

โมจิสุดน่ารักชิ้นนี้ได้สีชมพูอ่อนสวยๆ มาจากดอกซากุระและห่อหุ้มไปด้วยใบของต้นซากุระดอง โดยรูปแบบที่ห่อก็จะแตกต่างกันไปแต่ละภูมิภาค ชาวญี่ปุ่นมักจะทานในช่วงฤดูใบไม้ผลิและวันเด็กผู้หญิงของญี่ปุ่น

9. Manju
ขนมมันจูแบบดั้งเดิมแท้ๆ ของญี่ปุ่นจะใช้แป้ง Buckwheat และแป้งข้าวเจ้าเป็นส่วนประกอบและสอดไส้ด้วยถั่วแดง ขนมมันจูมีหลากหลายรสชาติ เช่น ชาเขียวมัทฉะ (ถ้าต้องการให้แป้งเป็นสีเขียว) หรือสอดไส้ครีมรสส้มก็มีด้วยเช่นกัน

10. Japanese Crêpe

เรารู้กันดีว่าเครปนั้นเป็นขนมที่มาจากฝรั่งเศส แต่การม้วนเครปให้เป็นรูปกรวยแบบนี้ไม่มีที่ไหนอีกแล้วนอกจากที่ญี่ปุ่น โดยจะสอดไส้ครีม ผลไม้สับ หรือถั่วต่างๆ ก็มีมากมายให้เลือก ด้วยความอร่อยของเครปญี่ปุ่นนี้ทำเป็นร้านขนมริมทางที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก

11. Namagashi

ขนมน่ารักๆ ที่ปั้นเป็นรูปต่างๆ นี้คล้ายกับลูกชุบบ้านเราเลยแต่ขนมนามางะชินั้นทำมาจากน้ำตาลญี่ปุ่น ปั้นเป็นรูปทรงน่ารักๆ แล้วตกแต่งด้วยเจลลี่หรือถั่วแดง มักเสิร์ฟในพิธีชงชาโดยขนมมนี้อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานหลายยุคแล้ว

เมื่อดูแล้วจะรู้ว่าขนมของญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่แค่อร่อยเท่านั้นแต่ยังใส่งานศิลปะเจ๋งๆ เข้าไปทำให้ขนมดูมีมูลค่าเพิ่มขึ้น

และใครที่ได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นก็ต้องไม่ลืมที่จะไปทานขนมสุดน่ารักเหล่านี้ด้วยล่ะ

























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น